เดี๋ยวนี้ เวียดนาม กลายมาเป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่กำลังฮ็อตฮิตสำหรับชาวไทย เพราะอยู่ไม่ไกล เดินทางไปง่าย มีที่เที่ยวให้เลือกหลายรูปแบบตามความชอบ Street Food ก็อร่อย และค่าใช้จ่ายยังไม่เกินงบอีกด้วย ดีอย่างนี้มีหรือที่เราจะพลาด พากันมา อัพเดท 22 ที่เที่ยวเวียดนาม 2022 ที่น่าสนใจใน รับรองว่าต้องถูกใจอย่างแน่นอน เราแบ่งหมวดไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วย เลือกเที่ยวได้ตามใจชอบเลยจ้า
คาเฟ่อพาร์ทเม้นท์ เคยเป็นที่พักของทางรัฐบาลและทหารช่วงปี 1950 (ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2) ปัจจุบันถูกรีโนเวทให้กลายเป็น The Cafe Apartment ที่มีทั้งหมด 9 ชั้น ในแต่ละชั้นก็จะมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ซึ่งแต่ละร้านก็จะตกแต่งด้วยสไตล์ที่แตกต่างกันไป เหมาะมากสำหรับการไปพักผ่อนนักจิบชา กาแฟ กินเค้ก หรือดื่มด่ำกับบรรยากาศชิคๆ สัมผัสกลิ่นอายวินเทจๆ ปนโมเดิร์น
ดานัง อดีตหมู่บ้านชาวประมง และเมืองท่าสำคัญ ที่นี่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุดของเวียดนามกลาง เพราะมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หาดทรายขาวที่ขึ้นชื่อ และวิวที่สวยงามของภูเขาหินอ่อน นี่เองที่ทำให้ดานังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก
Ba Na Hill ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พักของนักล่าอาณานิคมชาวฝรั่งเศส แต่ขณะนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นโรงแรม และรีสอร์ท คอมเพล็กซ์ เดินทางมาที่นี่ได้โดยขึ้นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุด และสูงที่สุดในโลก สามารถมองเห็นผืนป่า น้ำตกและลำธารต่างๆ ที่สำคัญยังมีที่เที่ยวใหม่ล่าสุด นั่นคือสะพาน Golden Bridge ที่มีอุ้งมือยักษ์โอบอุ้มสะพานไม้ที่โค้งตามแนวเขาเอาไว้
ฮอยอัน หรืออ่านตามสำเนียงเวียดนามว่า โฮยอาน เมืองเล็กๆ อยู่ทางตอนกลางของประเทศ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ทำให้เมื่อปี 2542 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่า เป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์
ดินแดนแห่งดอกไม้หลากสีที่เมืองบัคฮา เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แต่ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองใหญ่ๆ ในเวียดนามเลย โดยเฉพาสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องของชนเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในเวียดนามเหนือ ซึ่งพวกเขายังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมของตนเองได้เป็นอย่างดี
ดาลัด เมืองเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี บรรยากาศเมืองนี้โรแมนติกจนขึ้นชื่อว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม" ตึกอาคารถูกออกแบบสไตล์ยุโรป มีแม่น้ำอยู่กลางเมือง ที่ที่เที่ยวสวยๆ มากมาย ทั้งทุ่งดอกไม้หลากสี น้ำตก ลานศิลปะ ฯลฯ ทั้งหมดนี้การันตีวิวยุโรป ควรแต่งตัวหน้าหนาวมาให้พร้อม เพื่อการถ่ายรูปแบบชิคๆ เก๋ๆ นั่นเอง
เกิ่น เทอ เป็นเมืองไม่ใหญ่มาก เที่ยวสัก 3 วันกำลังดี ไม่วุ่นวายเท่าฮานอย หรือโฮจิมินห์ เดินเล่นได้อย่างสบายใจ มีตลาดน้ำใหญ่ให้เราได้นั่งเรือเที่ยว ชมบรรยากาศการใช้ชีวิตกลางน้ำของชาวเกิ่นเทอ ที่เรียกได้ว่าเป็นตลาดน้ำในรูปแบบดั้งเดิมจริงๆ นอกจากนั้นเมืองนี้ยังมีร้านอาหารเวียดนามแบบสตรีทฟู้ดมากมาย มีตลาดกลางคืน มีศาลเจ้าอยู่ใจกลางเมือง เรียกได้ว่าของกินเด็ดๆ ไม่แพ้เมืองใหญ่ที่อื่นของเวียดนามเลยล่ะ
เกาะหินปูนสูงตระหง่านตั้งเรียงรายสลับกับเกาะแก่งเล็กๆ ท่ามกลางน้ำทะเลสีมรกตของอ่าวตังเกี๋ย อ่าวฮาลองประกอบด้วยเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะ ที่โผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเลกระจายอยู่ทั่วอ่าว ซึ่งภายในเกาะก็ดารดาษไปด้วยอุโมงค์ลมที่โดนเกลียวคลื่นกัดเซาะจนกลายเป็นความงดงามอันน่าประหลาดใจ ฮาลองเบย์จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี่ตลอดทั้งปี
เมืองท่องเที่ยวทางทะเล อยู่ในจังหวัดคั้ญฮหว่า ประเทศเวียดนาม มีชายหาด และทะเลที่เหมาะแก่การดำน้ำ มีชายหาดที่ทอดตัวยางกว่า 6 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นเมืองสวรรค์ของผู้ชื่นชอบกีฬาทางน้ำเลยทีเดียว
กั๊ตบา เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮาลองเบย์ โดยมีพื้นที่เกือบ 200 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะคือ ป้อมแคนนอน ที่สร้างขึ้นบนยอดเขาซึ่งสูงที่สุดในเกาะกั๊ตบา เมื่อครั้งเวียดนามถูกฝรั่งเศสเข้ายึดครอง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่จะได้เห็นแนวบังเกอร์เก่าแก่และฐานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของเกาะกั๊ตบาที่สวยงาม
เกาะสวรรค์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีเกาะขนาดแตกต่างกันออกไปถึง 28 เกาะ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามแบบดั้งเดิม ชายหาดขึ้นชื่อของที่นี่คือSao Beach มีหาดทรายยาว 7 กิโลเมตร ที่ขาวสะอาดมาก นุ่มเนียนละเอียด ที่สำคัญยังไปได้ง่ายๆ เพราะมีสายการบินบินตรงจากประเทศไทยเลย ตั้งอยู่ในทะเลฝั่งอ่าวไทยด้วย
ใครไม่อยากเดินทางไปเที่ยวทะเลทรายไกลถึงซาฮาร่า ไปชิลล์ๆ กลางทะเลทรายมุยเน่ก็ได้เหมือนกัน ทะเลทรายขาว หรือ white sand dunes เป็นเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดของมุยเน่ มีทะเลสาปขนาบข้างด้วย
ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang ถ้ำโบราณอายุประมาณ 2-5 ล้านปี ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ภายในหุบเขา มีความกว้าง 200 เมตร สูง 150 เมตร และมีความยาวถึง 9 กิโลเมตร เรียกได้ว่ายกเมืองทั้งเมืองมาไว้ในนี้ยังได้ ถ้ำซันดองได้รับการบรรจุให้เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสมาคม BCRA (British Cave Research Association) ภายในอุทยานแห่งชาตินี้ยังมีพื้นที่อีกมากมายที่นักสำรวจยังไปไม่ถึง อีกทั้งการสำรวจยังทำได้เฉพาะช่วงหน้าแล้งเท่านั้น
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติฟองญา ซึ่งอุดมไปด้วยภูเขาหินปูนที่มีอายุประมาณ 400 ล้านกว่าปี ฟองญาเป็นถ้ำที่ได้รับการยกย่องว่ามีความเป็นที่สุด 7 อย่าง ได้แก่ ถ้ำในน้ำยาวที่สุด มีปากถ้ำกว้างและสูงที่สุด มีเนินทรายและหินใต้น้ำสวยที่สุด มีทะเลสาบน้ำจืดในถ้ำสวยที่สุด มีหินงอกหินย้อยรูปทรงต่าง ๆ สวยงามที่สุด มีลำน้ำลอดภูเขายาวที่สุด (13,969 เมตร) และถ้ำที่มีทั้งแห้ง ทั้งกว้างและสวยที่สุด
ซาปา เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาอยู่ในเขตจังหวัดลาวไค ตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีอากาศดีและเงียบสงบจึงเหมาะสำหรับการพาครอบครัวมาเที่ยวผ่อนคลาย ที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยความสวยงามที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติและมนุษย์มากมาย ทั้งภูเขาสูงที่ตั้งสลับซับซ้อน และนาขั้นบันไดมากมายท่ามกลางลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างสวยงาม
อุทยานแห่งชาติบาเบ๋ อุทยานที่เปิดเป็นแห่งที่ 8 ของเวียดนามเมื่อปี 1992 แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยวทั่วไปสักเท่าไหร่นัก ยกเว้นนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ที่นิยมสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสงบ และมีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยน้ำตก ถ้ำ ภูเขาหินปูน ทะเลสาบความยาวกว่า 8 กิโลเมตร
ที่นี่เป็นน้ำตกที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลกรองมาจาก น้ำตกไนแอการา, น้ำตกวิกตอเรีย และน้ำตกอีกวาซู ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างประเทศจีน และประเทศเวียดนาม ทางมณฑล Daxin ของจีน และ เมือง Trung Khanh ของเวียดนาม วิวทิวทัศน์บริเวณน้ำตกจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมตลอดทั้งปี
ที่เที่ยวธรรมชาติของเมืองดาลัด เกิดจากภูเขาหินอ่อน เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มาก สูงประมาณ 20 เมตร แต่มีความสวยงดงาม และมีหลายชั้น
วัดหลินอึ๋ง อยู่บนเกาะเซินตร่า (Son Tra) ทางเหนือของเมืองดานัง เป็นวัดใหญ่ที่สุดของที่นี่ หันหน้าออกสู่ทะเลเพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองชาวประมงที่ออกไปหาปลา สำหรับองค์เจ้าแม่กวนอิมที่วัดหลินอึ๋งนั้น ขึ้นชื่อมากในการขอพรเรื่องสุขภาพ การทำมาค้าขาย ความแคล้วคลาด และเรื่องขอลูกด้วย
สร้างขึ้นในช่วงที่ประเทศฝรั่งเศสถือครองอาณานิคมประเทศเวียดนาม ปี ค.ศ.1876 เป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนครโฮจิมินห์ มีเอกลักษณ์คือตัวอาคารสีชมพูอ่อนทั้งหลัง และหอคอยสูงเด่นเป็นสง่า ใกล้ๆกับประตูจะมีหอระฆังขนาดใหญ่ 2 แห่ง ที่จะตีบอกเวลาทุกชั่วโมง มีคู่รักนิยมมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่กันบ่อยๆ ด้วย
หมีเซินเคยเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรจามปา จัดเป็นกลุ่มโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในอินโดจีน ประกอบด้วยปราสาททั้งหมด 73 หลัง แต่ในช่วงสงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ใช้ปราสาทหมีเซินเป็นกองบัญชาการ โบราณสถานจำนวนมากจึงถูกทำลายไป ทำให้ปัจจุบันเหลือปราสาทเพียง 22 หลัง
เว้ นั้นเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามอยู่ราว 400 ปี เป็นที่ตั้งของ พระราชวังเว้ ซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมนั้นได้รับอิทธิพลจากจีน เพราะถูกปกครองโดยจีนมานานนับพันปี ออกแบบให้มีกำแพงล้อมรอบถึง 3 ชั้น โดยชั้นในสุดคือ ตือกามแทงห์ หรือนครต้องห้ามของจักรพรรดิ ที่ถูกสงวนไว้เฉพาะจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
หากใครที่มองโปรแกรมการท่องเที่ยวเวียดนามไว้แต่ยังไม่รู้จะเดินทางยังไง สอบถามเรา มีทัวร์มั้ยได้น้า รับรองว่าจะพาไปชมเวียดนามให้จุใจ
ติดตามพวกเรามีทัวร์มั้ยแบบใกล้ชิดกว่าใครได้ที่