11 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในอียิปต์ Egypt เที่ยวอียิปต์ (Egypt) หรือ สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ประเทศแห่งอารยธรรมโบราณ ที่มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ลึกลับ และตำนานอันน่าพิศวง สัมผัสกับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก รับรองว่าต้องหลงเสน่ห์ดินแดนอาหรับโบราณแห่งนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอนค่า
1. เที่ยวพิพิธภัณฑ์โบราณ Grand Egyptian Museum (GEM) พิพิธภัณฑ์โบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก! และกำลังจะเปิดให้เข้าชมกลางปี 2021 นี้จ้าา ใครที่ชอบท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์รับรองว่าต้องเลิฟฟฟ เพราะทั้งยิ่งใหญ่ ทั้งอลังการ ใช้งบก่อสร้างสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์! *0* หรือประมาณ 31,000 ล้านบาท!!! โอ้แม่เจ้าาา เริ่มทำก่อสร้างกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 บนที่ราบสูงทะเลทรายเมืองกีซา (Giza) มีพื้นที่กว้างเกือบ 490,000 ตารางเมตร
ใกล้ๆ กันเป็นมหาปีระมิดกีซา Great Pyramid of Giza พีระมิดชื่อดังที่สมบูรณ์ที่สุด จนได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์จึงออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายสามเหลี่ยมเพื่อกลมกลืนกับมหาปีระมิดนั่นเองค่ะ พื้นที่ส่วนมากสร้างด้วยกำแพงหินที่มีคุณสมบัติโปร่งแสง ตัวอาคารจึงถูกตั้งอยู่ใต้ดินเพื่อหลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์เพื่อรักษาวัตถุโบราณล้ำค่าให้คงสภาพได้ดีที่สุด และไม่ทำให้บดบังภูมิทัศน์รอบๆ เมือง
2. มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พีระมิดคีออปส์ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และเป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก! ตั้งอยู่บนที่ราบสูงทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ในเขตชานเมืองของกรุงไคโรสมัยใหม่ สร้างขึ้นในช่วงของกษัตริย์ Khufu ราวๆ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล หรือ เมื่อประมาณ 4,600 ปีที่แล้วในสมัยราชวงศ์ที่ 4 แห่งอิยิปต์ เป็นเวลาที่ยาวนานมากๆ มหาพีระมิดแห่งกีซ่าประกอบไปด้วย 3 พีระมิดด้วยกัน ได้แก่ พีระมิดคูฟู (Khufu) หรือ มหาพีระมิดแห่งกีซ่า (The Great Pyramid of Giza), ต่อมา พีระมิดคาเฟร (Khafre) ตั้งอยู่ตรงระหว่างกลาง พีระมิดคาเฟรถูกสร้างบนพื้นที่สูงทำให้เมื่อดูเผินๆ แล้วดูใหญ่กว่าทั้ง 3 พีระมิดและสุดท้ายคือ พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) มีขนาดเล็ก และมีอายุน้อยที่สุดในหมู่พีระมิดทั้ง 3 มีความสูงเพียง 230 ฟุตเท่านั้น
3. มหาวิหารอาบูซิมเบล(Abu Simbel Temples) วิหารหินขนาดมหึมา ที่ได้รับมอบให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ ตั้งอยู่บนพรมแดนของประเทศอียิปต์กับซูดานถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ในรัชกาลของ Ramesses II เมื่อราวๆ 1,224 ปีก่อนคริสตศักราช เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของอียิปต์ที่ชนะนิวเบียในสมรภูมิแห่งคาเดส
วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นจากการเจาะสกัดภูเขาสองลูก แบ่งออกเป็น วิหาร 2 หลัง คือวิหารที่สร้างขึ้น เพื่อองค์ฟาโรห์รามเสสที่สอง และพระมเหสีของพระองค์เอง จุดเด่นของวิหารแห่งนี้คือ รูปแกะสลักองค์ฟาโรห์รามเลสที่นั่งประทับอยู่บนบัลลังก์หน้าวิหารถึงสี่องค์ แต่ละองค์มีความสูง 20 เมตร เห็นแล้วต้องอ้าปากค้าง แบบทึ่งๆ ในความสามารถ และความพยายามของคนยุคก่อน ยกนิ้วให้เลย
4. หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ตรงข้ามกับเมืองธีปส์ หรือเมืองลักซอร์ในปัจจุบัน หุบเขากษัตริย์เป็นหุบเขาที่มีหลุมฝังศพถึง 63 หลุม แต่ละหลุมจะมีห้องขนาดใหญ่ และเล็กต่างกันไป มีความซับซ้อนมากกว่า 120 ห้อง แน่นอนค่ะว่าต้องไม่ใช่หลุมฝังศพธรรมด๊า เพราะที่นี่คือหลุมฝังศพของเหล่ากษัตริย์ และราชวงศ์ของอียิปต์โบราณ ตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 18 ถึง 20 เลยค่ะ เป็นสถานที่ที่เก่าแก่ และโบราณมาก แค่นี้ก็รู้สึกว่าขนแขนสแตนอัพแล้ว
5. วิหารคาร์นัก(Karnak Temple Complex) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่สุดในอียิปต์ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลักซอร์เพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นสถานที่ทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วยจ้า วิหารคาร์นักได้ชื่อว่าเป็นวิหารที่สวยงามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอียิปต์ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการถวายแด่เทพเจ้าอะมอนรา(สุริยะเทพ) และเพื่อเป็นที่จัดพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนาตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ
6. ภูเขาซีนาย (Mount Sinai) หรือที่เรียกว่า ภูเขาแห่งโมเสส มีความสูง 2,285 เมตร หรือประมาณ 7,497 ฟุต ภูเขาแห่งนี้มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับทางศาสนา เพราะมีการปรากฏชื่อภูเขาแห่งนี้ครั้งแรกในพระคริสตธรรมคัมภีร์ แต่เดิมภูเขาแห่งนี้ชื่อว่า "โฮเรบ" สถานที่ที่พระผู้เป็นเจ้าปรากฏให้โมเสสเห็นเป็นครั้งแรกค่ะ โดยมาให้เห็นในลักษณะไฟลุกบนต้นไม้แต่ว่าไม่ไหม้ และได้ตรัสกับโมเสสว่า ให้ปลดปล่อยชาวอิสราเอลที่เป็นทาสอยู่ในอียิปต์ ต่อมาเมื่อโมเสสสามารถปลดปล่อยชาวอิสราเอลได้แล้ว พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกให้ไปเข้าเฝ้าเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนด้วยกัน บนภูเขาซีนาย ได้ประทานบัญญัติ 10 ประการ หรือ คำสอน ข้อปฏิบัติตามคัมภีร์ฮีบรู แก่โมเสสครั้งแรก ณ ภูเขาแห่งนี้ ซึ่งมีความสำคัญกับชาวอิสราเอลมากๆ ทำให้ภูเขาแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่สำคัญทางศาสนาไปโดยปริยาย
7. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ (Egyptian Museum) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะพิพิธภัณฑ์อียิปต์ หรือพิพิธภัณฑ์ไคโรส์ในกรุงไคโรประเทศอียิปต์ เป็นสถานที่เก็บวัตถุโบราณ ของล้ำค่ามากมายของอียิปต์ โดยรวบรวมไว้หลากหลายยุคสมัยด้วยกัน มีจำนวนกว่า 120,000 รายการ น่าจะต้องเดินเที่ยวชมตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยค่ะ เพราะเยอะมากจริงๆ นะ
8. ทะเลทรายเวสเทิร์นสะฮารา (Western Sahara Desert) ถือว่ามาไม่ถึงเลยทุกค๊น ที่นี่ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีพื้นที่กว่า 9,000,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามรองจากทวีปแอนตาร์กติกา และอาร์กติกเลยค่ะ แต่เห็นเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งแบบนี้ พื้นที่ตรงนี้เคยเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์มากๆ เลยนะคะ มีแม่น้ำ มีทั้งสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ แต่ด้วยความแห้งแล้งของภูมิภาคแอฟริกาเหนือ ทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นทะเลทรายมานานกว่า 2,000 ปีแล้วค่ะ เอ้ะๆ ! ถึงจะแห้งแล้งขนาดนี้แต่ดันมีหิมะตกได้ซะงั้น แต่ตกมาเพียงแค่สองครั้งเท่านั้นนะคะ โดยที่ครั้งแรกห่างกับครั้งที่สองนานถึง 37 ปีเลยทีเดียว
9. เมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในภาคเหนือของอียิปต์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 331 โดย Alexander the Great เป็นที่รู้จักมากที่สุดในสมัยโบราณ และเป็นที่ตั้งของ Pharos ประภาคารที่ยิ่งใหญ่ ถูกนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณด้วยน้าา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีเขตสาธารณะที่สวยมากๆ เลยค่ะ รวมถึงพระราชวังซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 หรือ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดอีกด้วย ไปที่นี่ต้องยกกล้องมาแชะภาพ และเก็บบรรยากาศกันรัวๆ รับรองว่าได้รูปเด็ดๆ แน่นอน
10. ล่องเรือแม่น้ำไนล์ (River Nile Cruise) กันดีกว่าค่ะ แม่น้ำไนล์เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในอียิปต์ และเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญกับชาวอียิปต์มากค่ะ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อประมาณ 5 ล้านปีก่อน จากแม่น้ำเริ่มไหลลงสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอียิปต์ การตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรจึงค่อยๆ เริ่มต้นขึ้น ถือว่าเป็นแม่น้ำที่ให้กำเนิดอารยธรรมของชาวอียิปต์เลยก็ว่าได้ และยังเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญใน ตำนานโอซิริส (Osiris) อีกด้วยจ้า ถ้าไม่มีแม่น้ำสายนี้สามารถพูดได้เลยค่ะว่าอาจจะไม่มีอียิปต์ในปัจจุบันก็ได้น
11. เมืองฮูร์กาดา ชายฝั่งทะเลแดง (Hurghada, Red Sea) เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่มีอากาศร้อนตลอดปีโดยมีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส และยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของอียิปต์อีกด้วยตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลแดง (Red Sea) เป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการัง และนักดำน้ำจากประเทศอื่นๆ มากมาย เนื่องจากมีทั้งปะการังที่สวยงาม และสายพันธุ์ปลากว่าหนึ่งพันชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเลแดง การเล่นวินเซิร์ฟ ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน
หากใครที่มองโปรแกรมการท่องเที่ยวอียิปต์ไว้แต่ยังไม่รู้จะเดินทางยังไง สอบถามเรา มีทัวร์มั้ยได้น้า รับรองว่าจะพาไปชมอียิปต์ให้จุใจ
ติดตามพวกเรามีทัวร์มั้ยแบบใกล้ชิดกว่าใครได้ที่