เมืองไฟรบูรก์ เป็นเมืองเล็กๆ ในเขตสวิสที่พูดภาษาเยอรมันปนๆ ฝรั่งเศส (คนละเมืองกับ Freiburg ทางใต้ในเขตป่าดำหรือ Black Forest ของเยอรมัน อันนั้นเรียกเต็มๆ ว่า Freiburg im Breisgau) หลายคนบอกว่าเมืองนี้เหมือนเมืองในยุคกลาง บ้างก็ว่าเป็นเมืองแห่งสะพาน ซึ่งข้ามแม่น้ำซารินกลับไปกลับมา หรือบางคนก็รู้จักเมืองนี้เพราะมีรูปปั้นหัวเสาของน้ำพุให้เดินตามหาแบบเดียวกับกรุงเบิร์น (หลายอันเป็นฝีมือช่างออกแบบคนเดียวกัน) แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร เมืองนี้ก็จัดเป็นหนึ่งในเมืองสวยน่าประทับใจของสวิสที่ไม่ควรพลาด แถมยังเล็กพอที่จะเดินเที่ยวได้ทั่วในเวลา 2-3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใต้กรุงเบิร์น (Bern) ลงมาไม่ไกล จึงเป็นได้ทั้งจุดหมายของ day trip ไปเช้าเย็นกลับจากเมืองข้างเคียงอย่างเบิร์น หรืออาจใช้เป็นที่พักตั้งต้นในการเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ในเขตเทือกเขาจูรา (ย่านผลิตนาฬิกา), ปราสาทกรุยแยร์ หรือจะลงไปทางทะเลสาบเจนีวา, หรือไป Interlaken ก็ยังได้ เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ค่อนข้างกลางๆ เหมาะสำหรับคนที่ยังจัดแผนไม่ลงตัวว่าจะเน้นไปทางไหนดี จองทำเลกลางๆ ไว้ก่อน หรือจะไว้เผื่อปรับเปลี่ยนแผนเที่ยวตามสภาพอากาศก็ยังไหว เพราะมีรถไฟสายหลักผ่านกลางเมืองและมากขบวนพอสมควร จะขาดก็ตรงเมืองนี้ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมากมายคึกคักอย่างเมืองอื่นๆ แต่ก็นั่นแหละ เมืองนี้มีประชากรแค่สามหมื่นกว่าคน แถมตอนไปนี่คือช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเริ่มจะเข้า low-season แล้ว น้ำในแม่น้ำก็เริ่มแห้งขอด ใบไม้ก็แดงจนร่วงลงมาเกือบหมด เหลือแต่หิมะยังไม่ตกเท่านั้น นักท่องเที่ยวก็เลยบางตาเป็นธรรมดา
ตามประวัติศาสตร์สวิสบันทึกว่าเมืองนี้มีอายุเกือบพันปี ตั้งขึ้นราวศตวรรษที่สิบสอง โดยมีชัยภูมิสำคัญที่สร้างความได้เปรียบคือแม่น้ำที่ล้อมรอบถึงสามด้าน และทุกด้านเป็นหน้าผาสูง ยากที่จะข้ามแม่น้ำเข้ามาได้ จึงเป็นเมืองหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในทางการเมืองและการสงครามหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคที่ดำเนินนโยบายเป็นอิสระ ยุคเข้าข้างฝรั่งเศส จนถึงยุคที่เข้าร่วมกับสมาพันธรัฐสวิสในเวลาต่อมา
ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว
https://www.facebook.com/metourmice
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณVasin Permsup (Travel.trueid)