ทองผาภูมิ เป็นอีกหนึ่งอำเภอใน จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ที่เที่ยวธรรมชาติ หรือ ที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมก็ตาม เราเลยจะชวนทุกคนไปพักใจ รีเฟรชร่างกายกันที่ 10 ที่เที่ยวทองผาภูมิ กาญจนบุรี รับรองว่าจะต้องถูกใจทั้งสายชิลและสายลุยอย่างแน่นอน

1. เขื่อนวชิราลงกรณ์

ชมวิวสวยๆ ที่ เขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือ เขื่อนเขาแหลม เขื่อนหินถมดาดคอนกรีตแห่งแรกของประเทศไทยที่สร้างขึ้นเพื่อปิดกั้น แม่น้ำแควน้อย และเอื้อประโยชน์ให้แก่ความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นผลิตกระแสไฟฟ้า ชลประทานเพื่อการเกษตร บรรเทาอุทกภัย รวมถึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดที่สำคัญ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะขึ้นไปเดินเล่นและขับรถชมวิวผืนน้ำอันกว้างใหญ่บนสันเขื่อน หรือไม่ก็ลงไปเล่นน้ำ ล่องแพ ตกปลาชิลๆ กัน

2. วัดท่าขนุน

ไปทำบุญกันที่ วัดท่าขนุน หรือ วัดหลวงปู่สาย ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านชาวไทยเชื้อสายมอญ พม่า และกะเหรี่ยงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดย หลวงปู่สาย อคฺควํโส ตั้งอยู่บนยอดเขาริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของอำเภอทองผาภูมิได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วย พระพุทธเจติย์คีรี พระเจดีย์ศิลปะพม่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ต้องฝ่าฟันบันไดกว่า 1,237 ขั้นเพื่อขึ้นไปสักการะ นอกจากนี้ก็ยังมี สมเด็จองค์ปฐม พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ และสังขารของ หลวงปู่สาย ที่ยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี ให้พวกเราได้ไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล

3. น้ำตกผาสวรรค์

ช่วงหน้าฝนก็ต้องไปเล่นน้ำ ชมความสวยงามของ น้ำตกผาสวรรค์ กันค่ะ แต่การเดินทางเข้าไปยังตัวน้ำตกนั้นค่อนข้างจะท้าทายสักหน่อย จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม เมื่อไปถึงก็จะพบกับน้ำตกขนาดใหญ่ทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นก็จะตั้งชื่อตามป่าหิมพานต์ในวรรณคดี ได้แก่ ธารสวรรค์ อ่างหินกินรี อ่างถ้ำแก้ว ผาคนธรรม์ ผาเทพบุตร ผาพิรุณ และ ผาสวรรค์ ส่วนความสวยงามนั้น บอกเลยว่าแต่ละชั้นมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเอง แต่ชั้นที่เป็นไฮไลท์ของน้ำตกแห่งนี้คือ ผาสวรรค์ นั่นเองค่ะ เป็นน้ำตกหินปูนสูง 80 เมตร ไหลลงสู่แอ่งน้ำ เกิดเป็นน้ำใสสีเขียวมรกต ดูสดชื่นเป็นอย่างมาก

4. น้ำตกผาตาด

ต่อด้วย น้ำตกผาตาด น้ำตกสวยอีกแห่งหนึ่งใน อำเภอทองผาภูมิ แม้ขนาดจะไม่ใหญ่เท่ากับน้ำตกผาสวรรค์ แต่นี่ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้น้ำตกแห่งนี้น่าลงไปเล่นน้ำเป็นอย่างมากค่ะ เพราะมีแอ่งน้ำที่กว้างใหญ่ อีกทั้งความสวยก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย รอบด้านเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม และพืชพันธุ์นานาชนิดให้เราได้ชมกันเพลินๆ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีต่อใจมากๆ เลยทีเดียว

5. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

สัมผัสกับธรรมชาติให้เต็มอิ่มที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่มีอาณาเขตของผืนป่าที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 700,000 ไร่ ประกอบไปด้วย ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าเบญจพรรณ มีระบบนิเวศน์และธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวกูดดอย-ช้างเผือก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น หรือ บึงน้ำทิพย์ ก็ตาม อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายากหลายชนิดอีกด้วย เช่น ช้างป่า, เลียงผา, เก้ง, กระจง, อีเห็น, ชะมด, เสือลายเมฆ, เสือโคร่ง, หมีคน, นกเงือก เป็นต้น

6. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ซ่อนตัวอยู่ใน อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นน้ำตกเพียงชั้นเดียวที่มีความสูงถึง 30 เมตร มีแหล่งต้นกำเนิดมาจากน้ำผุดบน ภูเขาอีปู่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 727 เมตร ทำให้น้ำที่ไหลลงสู่ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น แห่งนี้ใสสะอาด ใครได้ลงไปว่ายน้ำเล่นก็เหมือนกับได้อาบน้ำแร่ธรรมชาติเลยล่ะ แต่การเดินทางเข้าไปยังน้ำตกแห่งนี้ค่อนข้างจะลำบากหน่อย ต้องขับรถขึ้นเขาผ่าน 300 โค้งเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดพักรถให้พวกเราได้ไปชมวิวของ เขื่อนวชิราลงกรณ์

7. บ้านอีต่อง

เยี่ยม บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางสายหมอกใน ตำบลปิล็อก สมัยก่อนชุมชนแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ เหมืองปิล็อก เหมืองแร่ดีบุกที่รุ่งเรืองมากๆ มีทั้งโรงหนัง และตลาดให้ชาวบ้านได้ขายของกันอย่างคึกคัก แต่พอเข้าสู่ช่วงปี พ.ศ. 2527-2528 ราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำลง ความรุ่งเรืองของชุมชนแห่งนี้ก็เริ่มหายไป ปัจจุบัน บ้านอีต่อง จึงเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ ที่มีความเงียบสงบ และพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาพักที่โฮมสเตย์กันที่นี่ ก่อนจะออกเดินทางไปชมธรรมชาติรอบๆ หมู่บ้านค่ะ

8. เหมืองปิล็อก

มาถึงบ้านอีต่องก็ต้องไปชม เหมืองปิล็อก เหมืองเก่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองมากๆ ในอดีต เมื่อเดินผ่านซุ้มทางเดินก็จะพบกับบ้านหลังเก่าที่ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำ บ้านหลังนี้เคยเป็นที่อยู่ของเจ้าของสัมปทาน ตรงด้านหน้าจะมีพวกเครื่องจักรต่างๆ ที่เอาไว้ใช้ทำงานในเหมือง อีกทั้งยังมีบ่อน้ำตกเล็กๆ สร้างความสดชื่นอีกด้วย

9. จุดชมวิวเนินช้างศึก

จุดชมวิวเนินช้างศึก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังไม่ไกลจากบ้านอีต่อง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขึ้นมาชมทัศนียภาพอันกว้างใหญ่ของขุนเขาและบ้านเมืองด้านล่าง เพราะบนนี้สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,053 เมตร ทำให้พวกเราสามารถชมวิวสุดอลังการเบื้องหน้าได้ถึง 180 องศา รวมถึงชมทะเลหมอกยามเช้าและพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็นได้อย่างเต็มอิ่ม ยิ่งถ้าวันไหนท้องฟ้าปลอดโปร่งก็อาจเห็นทัศนียภาพอันกว้างไกลจนถึงทะเลอันดามันฝั่งเมียนมาร์ได้เลย

10. น้ำพุร้อนหินดาด

ปิดท้ายทริปด้วยการไปแช่น้ำอุ่นๆ ที่ น้ำพุร้อนหินดาด ผ่อนคลายจากการท่องเที่ยวแบบจัดเต็มสักหน่อย ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ถูกค้นพบโดยทหารญี่ปุ่น มีบรรยากาศอันร่มรื่นของธรรมชาติ รวมถึงเป็นสถานที่รักษาโรคผิวหนังและโรคปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี เพราะในน้ำมีแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย รวมถึงรักษาอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และเหน็บชาได้อีกด้วยค่ะ ใครที่อยากพักสมองจากเรื่องเครียดๆ มาแช่น้ำที่นี่ก็คงฟินไม่เบา

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณSummerB (Travel.trueid)