ถ้าถามว่า หน้าฝนนี้ไปเที่ยวไหนดี... ต้องบอกเลยว่า มีทัวร์มั้ยอยากชวนไปปักหมุดกันที่ กาญจนบุรี ค่ะ แต่ไม่ได้ไปเที่ยวในเมืองหรือไทรโยคกันแบบที่เคย เพราะจะพาไปชิลกันที่ สังขละบุรี สักที บอกเลยว่าความสโลว์ไลฟ์มารวมตัวกันแน่นๆ ที่นี่ค่ะ เอาล่ะปักหมุด ที่เที่ยวหน้าฝน กันเลยกับ 11 ที่เที่ยวสังขละบุรี เที่ยวกันแบบฟินๆ อินกับ Green Season

1. วัดใต้น้ำ วัดวังก์วิเวการาม

วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดใต้น้ำ สังขละบุรี เป็นที่เที่ยวดังที่ถูกซ่อนวัดนี้เอาไว้ใต้น้ำค่ะ เนื่องจากมีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทำให้วัดแห่งนี้ต้องจมอยู่ใต้น้ำนั่นเอง ทำให้ได้มีการย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาแทนเป็น วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) ส่วนวัดเดิมก็จมอยู่ใต้น้ำนานเป็นสิบปีแล้ว

วัดเดิมจึงกลายเป็นที่เที่ยวสุดฮิตของที่นี่เลย โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม น้ำในแม่น้ำลดลง จนนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปในโบสถ์ได้เลยค่ะ แต่ถ้ามาในช่วงอื่นๆ เราจะทำได้แค่ล่องเรือไปในบริเวณใกล้ๆ กับโบสถ์เท่านั้น ถ้าโชคดีก็อาจจะเห็นผนังโบสถ์บางส่วนโผล่พ้นน้ำบ้าง ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่เที่ยว Unseen สังขละบุรีอีกด้วย

2. วัดวังก์วิเวการาม ใหม่

วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ สร้างโดย พระราชอุดมมงคล หรือ หลวงพ่ออุตตมะ ค่ะ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเชื้อสายมอญที่ชาวบ้านเคารพนับถือ โดยท่านได้รวบรวมชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ รวมทั้งคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีช่วยกันสร้างวัดขึ้น วัดแห่งนี้จึงเกิดจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ

ต่อมาเมื่อมีการสร้างเขื่อนทำให้ย้ายวัดขึ้นไปตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน ส่วนวัดเดิมก็จมอยู่ใต้น้ำ จนกลายเป็นที่เที่ยว Unseen ในสังขละบุรีไปนั่นเอง สถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดใหม่ คือ ศาลาประดิษฐานสังขารหลวงพ่ออุตตมะ วิหารพระพุทธรูปหินอ่อน และเจดีย์พุทธคยาจำลอง

3. สะพานมอญ

สะพานมอญ เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของสังขละบุรีเลยทีเดียวค่ะ ถ้าใครได้มาเที่ยวสังขละบุรีแล้ว ต้องไม่พลาดแวะมาเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ กลางสะพานมอญแห่งนี้สักครั้ง สะพานมอญ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ ค่ะ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ และยังถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
สะพานแห่งนี้ยังเหมือนเป็นสายใยวัฒนธรรมของชาวมอญและไทยอีกด้วย เราจะได้เห็นถึงวิถีชีวิต และวัฒนธรรมต่างๆ ชาวมอญ โดยเฉพาะการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวมอญ รวมถึงเด็กๆ ที่นิยมทาแป้งทานาคา อีกทั้งยังต้องอะเมซซิ่งมากๆ กับการเทินของไว้บนหัวของชาวมอญ บางคนสามารถเทินของได้สูงๆ หรือหนักมากๆ แล้วยังสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย

4. หมู่บ้านมอญสังขละบุรี

หมู่บ้านมอญ เป็นหมู่บ้านของชาวมอญที่ตั้งอยู่ปลายสะพานมอญค่ะ ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพหลักๆ คือ การปลูกพืชผักสวนครัวตามชายน้ำ และการทำประมงชายฝั่ง และเปิดหมู่บ้านในนักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมเยือนชมวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวมอญได้

กิจกรรมที่นิยมกันในการไปเที่ยวหมู่บ้านมอญก็คือ การตักบาตร ลองชิมอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ และการซื้อของฝากต่างๆ ของแฮนด์เมดกลับไปเป็นที่ระลึก

5. วัดสมเด็จ เก่า

วัดสมเด็จ เก่า ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ตรงข้ามกับวัดใต้น้ำค่ะ ที่นี่สร้างโดยพระครูวิมลกาญจนคุณ เจ้าคณะตำบลหนองลู เป็นวัดที่ไม่ได้จมน้ำเหมือนวัดวังก์วิเวการามเก่า แต่ถูกทิ้งร้างไปเมื่อครั้งย้ายอำเภอสังขละบุรี ตอนสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์นั่นเอง
นักท่องเที่ยวสามารถไปชมความสวยงามของวัดสมเด็จหลังเก่าแห่งนี้ได้โดยการล่องเรือไปยังวัด ความสวยงามของที่นี่อยู่ตรงอุโบสถของวัด ที่มีพระประธานสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ และรอบๆ ตัวโบสถ์มีต้นไทรใหญ่ปกคลุม ดูมีมนต์ขลังอย่างน่าประทับใจ

6. จุดเล่นน้ำ ห้วยซองกาเรีย

อีกหนึ่งที่เที่ยวสังขละบุรีที่พลาดไม่ได้ก็คือ ห้วยซองกาเรีย หรือ จุดเล่นน้ำซองกาเรีย ค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นที่เล่นน้ำยอดนิยมในสัขละบุรีเลยทีเดียว นอกจากจะมีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีซุ้มแพริมน้ำให้เลือกนั่งกินลมชมวิวกันได้อีกด้วย แถมยังมีร้านอาหารต่างๆ ให้บริการค่ะ แน่นอนว่างานนี้ ส้มตำ ไก่ย่าง ต้องมาแล้ว นั่งชิลชมวิวกินของอร่อยริมน้ำ เอาขาจุ่มน้ำไปด้วย ดีต่อใจสุดๆ

7. น้ำตกเกริงกระเวีย

อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติของสังขละบุรีที่น่าเช็คอินมากๆ ก็คือ น้ำตกเกริงกระเวีย ค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่นี่เป็นน้ำตกหินปูนขนาดเล็กที่สวยงาม มีเพียงชั้นเดียว และสูงประมาณ 5 เมตรค่ะ ธารน้ำตกไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นหินปูนสวยงาม และสามารถลงเล่นน้ำได้ที่นี่อีกด้วย

8. น้ำตกนพพิบูลย์

น้ำตกนพพิบูลย์ หรือ น้ำตกหมวดเดช เป็นน้ำตกสวย ที่มีสายน้ำลดหลั่นกันลงมาเป็นแอ่งตื้นๆ และไหลทอดยาวตกลงสู่หน้าผาที่มีความสูง 25 เมตร ถูกค้นพบโดย ร.ต.ท.สุรเดช นพพิบูลย์ เมื่อประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมานี่เอง

โดยหมวดเดช มาตั้งจุดสกัดตรวจค้นในบริเวณริมถนนทางหลวงชนบท 2078 ใกล้กับบริเวณลำธาร และได้ยินเสียงน้ำไหลแรงอย่างชัดเจนในช่วงหน้าน้ำ หมวดเดชจึงได้เริ่มทำการสำรวจบริเวณลำธาร และร่วมกับชาวบ้านบุกเบิกถางวัชพืชที่ปกคลุมอยู่ จนกระทั่งค้นพบน้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผืนป่าบริเวณนี้

9. ด่านเจดีย์สามองค์

ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นด่านชายแดนจากไทยไปเมียนมาค่ะ เจดีย์สีขาว 3 องค์ที่ตั้งอยู่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพนั่นเอง ในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ที่นี่จะมีความคึกคักมากๆ เพราะจะมีพ่อค้า แม่ค้า ทั้งจากฝั่งไทยและเมียนมานำสินค้าต่างๆ เข้ามาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถข้ามชายแดนเข้าไปชม ตลาดพญาตองซู ในเขตประเทศเมียนมาได้อีกด้วย โดยการทำเอกสารได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรีค่ะ แต่นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถพักค้างคืนในเมียนมาได้ ต้องกลับเข้ามาฝั่งไทยก่อนด่านปิด เวลา 18.00 น.

10. จุดชมวิวป้อมปี่

จุดชมวิวป้อมปี่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ค่ะ คำว่า “ป้อมปี่” นั้นเป็นชื่อเรียกที่เพี้ยนมาจากคำว่า “เปอปี่” ซึ่งเป็นภาษากระเหรี่ยง แปลว่า ต้นอ้อ เพราะด้วยความที่สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำที่มีดงอ้อขึ้นกระจัดกระจายริมฝั่งน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์

ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันตกเลยทีเดียว ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเหมาะมากางเต็นท์ ชิลๆ ในวันหยุด และทำกิจกรรมต่างๆ อย่าง เล่นน้ำ ดูนก ตกปลา พายเรือ และอื่นๆ อีกด้วย

11. น้ำตกไดช่องถ่อง

น้ำตกไดช่องถ่อง เป็นน้ำตกที่สวยงาม เพราะมีสายน้ำไหลลดหลั่นผ่านเนินเขาหินปูน ลงมายังแอ่งน้ำตื้นใส ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน และลงเล่นน้ำค่ะ ภายในน้ำตกสดชื่น ร่มรื่นด้วยต้นไม้สีเขียว นักท่องเที่ยวจึงนิยมมากางเต็นท์ที่นี่เพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย และสายถ่ายรูป ที่นี่คือสวรรค์ของการเก็บภาพสายน้ำสีขาวฟุ้งไหลผ่านผนังหินปูนที่สวยงามอีกด้วย

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณเอิงเอย (Travel.trueid)