ต้อนรับปี 2564 ด้วยการเปิดทริปสายบุญ จันทบุรี ค่ะ และแน่นอนว่า จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลย นอกจาก เขาคิชฌกูฏ ตำนานรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ที่สายบุญอย่างเราๆ ห้ามพลาดที่จะไปสักการะค่ะ จะขึ้นไปยังไง ข้างบนมีอะไรบ้าง ตามมีทัวร์มั้ยไปดูกันเลย

เปิดทริปสายบุญ! กลับมาแล้วค่ะกับเทศกาลงานบุญประจำปี จันทบุรี กับงานประเพณีนมัสการ รอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้รับความสนใจมาก มีชาวพุทธมุ่งหน้าเดินทางมาแสวงบุญกันจากหลายที่เลยล่ะค่ะ ซึ่งในปีนี้เปิดให้นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป สามารถขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ ได้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม - 14 มีนาคม 2564 ค่ะ โดยจะมีการเริ่มบวงสรวง เปิดงาน ในวันที่ 12 มกราคม และจะเริ่มบวงสรวง ปิดป่า-เปิดเขา ในวันที่ 14 มกราคม

ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลให้ใช้ถนนสุขุมวิทค่ะ เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยาให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3249 ประมาณ 24 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง และเมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวไว้ที่ลานจอดรถ จากนั้นมีรถให้บริการขึ้นเขาพระบาท เพราะเขาคิชฌกูฏเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ จึงไม่อนุญาตให้รถส่วนตัวเข้าเด็ดขาดค่ะ เนื่องจากถนนหนทางลาดชันมาก แถมด้วยดินลูกรังตลอดทาง ทำให้วิธีที่จะขึ้นไปถึงยอดเขาได้มี 2 วิธีค่ะ นั่นก็คือ การเดินเท้าขึ้นไป ซึ่งใช้เวลาในการเดิน 7-8 ชั่วโมง และการนั่งรถสองแถวที่ทางวัดจัดไว้ให้

จุดบริการรถขึ้นเขาจะมีให้เลือก 2 ที่

• จุดวัดพลวง สำหรับวัดนี้จะอยู่ตรงทางขึ้นเขาเลยค่ะ ซึ่งเป็นจุดที่คนนิยมขึ้นกันมากที่สุด เพราะจุดนี้จะมีลานจอดรถให้บริการอย่างกว้างขวาง รวมถึงร้านขายของต่างๆ ด้วย ถ้าขึ้นรถจากที่วัดนี้ ต้องนั่งรถ 2 ต่อค่ะ โดยที่ต่อแรกจะขึ้นไปครึ่งทาง แล้วต้องต่อรถอีกรอบเพื่อขึ้นไปถึงด้านบนสุด และสำหรับจุดแวะนี้ จะมีเจดีย์กลางเขาให้สักการะด้วย
• จุดวัดกะทิง วัดนี้จะอยู่ห่างออกมาไม่ไกลมาก ที่นี่จะให้บริการรถที่วิ่งต่อเดียวแล้วถึงด้านบนเลยค่ะ มีพื้นที่ให้จอดรถบริการอยู่พอประมาณ แต่ถ้าคนเยอะอาจจะต้องจอดรถไว้ด้านนอกวัด

“เขาคิชฌกูฏ” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ต.พลวงกิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงกว่า 1,050 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือว่าสูงที่สุดในประเทศไทยค่ะ ว่ากันว่าใครได้มานมัสการรอยพระพุทธบาท บนยอดเขาคิชฌกูฏก็เหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะได้รับกุศลอันยิ่งใหญ่ มีแต่ความสุขความเจริญ หากได้มาอธิษฐานขอพรแล้วจะสมหวังดั่งใจปรารถนา

ในระหว่างทางขึ้นเขาจะมีจุดแวะพักให้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ศิลาเจดีย์ รอยพระพุทธบาทหลวง หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤาษี หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ และเมื่อขึ้นไปถึงบนยอดเขาคิชฌกูฏ ก็จะมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามมากค่ะ อากาศเย็นสบาย สูดลมหายใจได้สดชื่น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจนสวยงามเลย

“ผ้าแดง” ลานผ้าแดงจะตั้งอยู่เลยลานพระบาทขึ้นไปค่ะ เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนมักจะเดินทางมาเขียนคำอธิษฐานลงบนผ้าแดง ด้วยความเชื่อที่ว่าเมื่อได้เขียนคำอธิษฐานลงบนผ้าแล้ว คำขอก็จะเป็นจริง ซึ่งจริงๆ แล้ว แต่เดิมผ้าแดงเจ้าหน้าที่ได้แขวนไว้เพื่อบ่งบอกถึงความอันตรายของพื้นที่ เพราะบริเวณนี้เป็นจุดสิ้นสุดเขตแดนบนเขาคิชฌกูฏซึ่งมีความลาดชันมากค่ะ แต่หลังจากที่มีคนเริ่มเขียนข้อความอธิษฐานเยอะขึ้นๆ ก็เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกจุดสำคัญเมื่อเดินทางขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏ

จุดสักการะ

       จุดสำคัญที่จะต้องกราบไหว้สักการะบนเขาคิชฌกูฏ มีอยู่ 9 จุด ซึ่งมีเคล็ดลับในการขอพรเพียง 5 จุด และต้องขอเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น และมีความเชื่อว่าเมื่อกลับลงมาจากเขาจะสมปรารถนาค่ะ

• จุดที่ 1 ต้นโพธิ์ – พระบาทจำลอง
• จุดที่ 2 ไหว้พระปางต่างๆ 9 รูป
• จุดที่ 3 หลวงปู่นัง หรือพระครูพุทธบทบริบาล อดีตเจ้าอาวาสวัดพลวง (ขอพรครั้งที่ 1)
• จุดที่ 4 ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อให้เกิดสิริมงคลแคล้วคลาดปลอดภัย
• จุดที่ 5 ศาลาพระนอน ตั้งสัจจะอธิฐานที่พระอภิบาลมงคลพุทธไสยาสน์ (ขอพรครั้งที่ 2)
• จุดที่ 6 พระเจดีย์ (ขอพรครั้งที่ 3)
• จุดที่ 7 พระสิวลี (ขอพรครั้งที่ 4)
• จุดที่ 8 พระสีหไสยาสน์ หรือ พระนอนหิน (ขอพรครั้งที่ 5) จุดนี้เป็นจุดขอพรครั้งสุดท้ายค่ะ และอย่าลืมว่า ตลอดการขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามจุดต่างๆ ที่ผ่านมา ต้องขอเพียง 1 เรื่องเท่านั้น
• จุดที่ 9 ไหว้พระ – กราบสักการะรอยพระพุทธบาท และบริเวณหินก้อนใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงรอยพระบาท ซึ่งเป็นจุดหมายสำคัญของการเดินทางมาขึ้นเขาคิชฌกูฏ ถ้าไม่ได้มาไหว้ที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงเขาคิชฌกูฏ

เวลาที่เหมาะในการขึ้นเขาคิชฌกูฏ

ช่วงเวลาที่คนน้อย > เวลา 13.00-20.00 ของทุกวัน (แนะนำเสาร์-อาทิตย์ดีที่สุด)

ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงคนเยอะ > 21.00-08.00 คนจะหนาแน่นเป็นพิเศษ 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณNnanthisin (Travel.trueid)