รีวิว 4 ร้านอาหารเกาหลี x กรุงเทพ เสมือนอยู่เกาหลี
รีวิว 4 ร้านอาหารเกาหลี x กรุงเทพ เสมือนอยู่เกาหลี
ช่วงนี้กระแสซีรีย์เกาหลีฮิตไม่แผ่วเลยจ้า เรามักจะได้เห็นฉากกินอาหารเกาหลีอยู่บ่อยๆ แทบจะทุกเรื่องเลยแหละ ทำเอากระตุกต่อมหิวใครหลายๆ คน ไปตามๆ กัน แถมเราเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเกาหลีอยู่บ่อยครั้งแหนะ แม้ใจจะล่องลอยไปยังแดนกิมจิแล้วก็ตาม แต่กายยังอยู่กรุงเทพอยู่เลย วันนี้มีทัวร์มั้ยจึงรวบรวมหาร้านอาหารสไตล์เกาหลี 4 ร้านด้วยกัน ทั้งรสชาติกับบรรยากาศนี่เหมือนได้ฟีลอยู่เกาหลีเบาๆ แล้วพิกัดไม่ได้อยู่ไหนไกลอีกด้วย ซึ่งก็อยู่ในโซนกรุงเทพนี่ละ หากใครเป็นสาวกซีรีย์เกาหลี หรือหลงรักอาหารเกาหลีอยู่แล้วต้องไม่พลาดนะ! ถ้าพร้อมแล้วตามก๊อตมาได้เล้ยยย

1. ฮันกัง รามยอน (HanGang Ramyun)

ประเดิมกันที่ร้านแรกกันเลย นั่นคือ ฮันกัง รามยอน (HanGang Ramyun) เป็นร้านเล็กๆ ที่ให้อารมณ์เกาหลี๊ เกาหลีเหมือนในซีรีย์เลยทีเดียว ซึ่งพิกัดอยู่ในโครงการ The Garden ย่านอโศกใกล้กับมศว แต่ความเจ๋งอย่างหนึ่งของที่นี่ คือเค้ายกเครื่องต้มรามยอนแบบอัตโนมัติมากจากเกาหลีเชียวนะ พร้อมกับเซตปิกนิกคิ้วท์ๆ เสมือนให้เราได้นั่งปิกนิกทิพย์ริมแม่น้ำฮันเบาๆ และที่สำคัญคือเราสามารถยืมเซตปิกนิกได้ฟรี! โดยเจ้าของร้านก็ยังเป็นคนเกาหลีอีกด้วย เอาล่ะ ไปต้มรามยอนกันดีกว่า

เริ่มต้นด้วยการเลือกห่อรามยอนก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งมีหลากหลายห่อให้เราเลือกได้เพลินๆ ต่อไปเราก็เลือกตัว Topping เสริม ไม่ว่าจะเป็น กิมจิ , ไข่ไก่ , ชีส , ไส้กรอก , ต๊อกไส้ชีส  และโอเด้งเกาหลี พอเลือกได้แล้ว นำเอารามยอนถ้วยฟอยล์ที่ทางร้านเค้าจัดให้ไปสแกนกับเครื่อง Yumchi Ramen Station จะว่าไปเครื่องต้มอัตโนมัติเค้าเก๋นะ อยากมีไว้ที่บ้านสักเครื่องเลยแหละ 5555 จากนั้นเราก็รอเครื่องต้มให้เดือดประมาณ 3 นาที แค่นี้ก็ได้กินแล้ววว

นอกจากนี้ทางร้านยังมีของกินเล่นอีกนะ แต่ก๊อตสั่งมาแค่ 2 เมนู คือ Spicy Fried Chicken (100 บาท) ซึ่งเราสามารถเลือกระดับความเผ็ดของไก่ทอดได้ แต่รอบนี้ขอซอสเผ็ดออรินอลพอ ไม่กล้าเสี่ยง 5555  อีกเมนูสั่งเป็น Gimmari  (90 บาท) คล้ายกับปอเปี๊ยะบ้านเรานี่แหละ แต่อันนี้ห่อสาหร่าย ส่วนรสชาติทั้งไก่ทอด และวุ้นเส้นห่อสาหร่ายเกาหลี ถือว่ากินได้เรื่อยๆ เพลินๆ วนไปจ้า

ไฮไลท์ความสนุกของที่นี่คือเซตปิกนิกที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ลูกค้ายืมไปนั่งปิกนิกกันได้ ซึ่งพร๊อพเค้าจัดเต็มอยู่นะ มีทั้ง ผ้าปูนั่ง ตะกร้า โต๊ะพับ และที่ประทับใจคือเค้าเตรียมสเปย์กันยุงไว้ให้เราด้วย เรียกว่าใส่ใจลูกค้าสุดๆ แต่ก๊อตคิดว่าราคาของอาหารค่อนข้างแพงไปหน่อย ถ้าเทียบกับเมนูอาหารต่างๆ  หากใครอยากมานั่งปิกนิกชิลๆ เอาบรรยากาศ ถ่ายรูปคุมโทนลง IG สวยๆ เหมือนเที่ยวทิพย์ไปนั่งปิกนิกที่เกาหลีก็ลองมากันได้เด้ออ

2. JOHA Korean Restaurant

ได้ยินชื่อเสียงต้นตำรับอาหารเกาหลีของร้าน JOHA Korean Restaurant ย่านอารีย์ มาสักพักใหญ่ๆ พอก๊อตมาได้ลิ้มลองของจริงแล้ว เรียกได้ว่าอร่อยสมคำร่ำลือมากๆ อันนี้ไม่โม้แน่นอน บวกกับการตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกลิ่นอายความเป็นโคเรียเบาๆ แถมเครื่องปรุงเกือบทุกอย่างของร้านนี้ก็สั่งตรงและนำเข้าจากเกาหลีใต้โดยเฉพาะ รวมกับวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากไทยแบบสดใหม่ และฝีมือการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันจากเชฟที่เป็นคนปูซานอีก บอกเลยว่ารสชาติถูกใจเหล่าสาวกอาหารเกาหลีอย่างแน่นอน

First Impressions แรกเมื่อมานั่งที่โต๊ะปุ๊บ เราก็สั่งน้ำเป็นอย่างแรกเลย แต่สิ่งที่ทางร้านเค้าเสิร์ฟมาให้คือ มีกิมมิคน่ารักๆ วางบนแก้วน้ำ ซึ่งเป็นผลไม้ราสเบอร์รี่กับพีช เหมือนเราได้เติมความสดชื่นก่อนกินเมนูหลัก สำหรับเครื่องเคียงจะถูกเสิร์ฟมาเป็นถ้วยน้อยๆ โดยเฉพาะกิมจิ ถ้าใครไม่ชอบรสเปรี้ยวเกินไป น่าจะชอบกิมจิร้านนี้เลยแหละ

ต่อกันที่เมนูที่สอง Sundubu Jjigae Kimchi (290 บาท) เป็นอีกเมนูที่เสิร์ฟแบบเดือดปุดๆ มาเลย โดยรสชาติของซุปเต้าหู้กิมจินี่เข้มข้นสุดๆ ไม่เลี่ยนจนเกินไป และเต้าหู้อ่อนยังนุ่มละมุนลิ้นอีกด้วย  ถือว่ากลมกล่อมซดคล่องคอมากๆ  ตบท้ายด้วยเมนูสุดท้าย Mandu boiled (145 บาท) เป็นเกี๊ยวซ่าเกาหลีทอดที่เค้าใส่ไส้มาให้แน่นๆ เต็มชิ้นเต็มคำมาก และแป้งก็กรอบนอกนุ่มในสุดๆ ถ้าใครชอบกินแนวทอดๆ เมนูนี้ตอบโจทย์

ภาพรวมของร้านนี้อร่อยทุกอย่างเลย ตอกย้ำความเป็นเกาหลีอินเตอร์หน่อยๆ และเมนูที่ก๊อตสั่งมาทั้งหมดรสชาติค่อนข้างเข้มข้นจัดจ้าน เอาเป็นว่าถูกปากคนไทยแบบเราชัวร์ๆ ส่วนมุมที่เก๋จนสะดุดตา ก็คือดีไซน์โครงเหล็กหน้าร้านนี่แหละ ไม่แปลกใจที่หลายๆ คนมาถ่ายรูปกัน ส่วนตัวก๊อตถือว่าเป็นอีกร้านหนึ่งที่ควรค่าแก่การมากิน ถ้าใครชอบอาหารแนวนี้ก็มากันได้เล้ย

3. Drum BBQ

ได้เวลากินแบบจัดหนักจัดเต็ม กับร้าน Drum BBQ ร้านปิ้งย่างเกาหลีแบบเรียกได้ว่าโคตรเกาหลี เหมือนยกร้านมาตั้งไว้ที่ห้วยขวางเลย ซึ่งพิกัดอยู่ที่ซอยรัชดาภิเษก 14 ที่ต้องบอกแบบนั้นเพราะเจ้าของเองก็เป็นคนเกาหลีแท้ๆ ชนิดที่ว่าพูดไทยสำเนียงเกาหลีเลยแหละ แม้กระทั่งเครื่องวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้านยังเปล่งเสียงออกมาเป็นภาษาเกาหลีอะคิดดู๊ ใครที่กำลังคิดถึงเกาหลีบอกเลยว่าการมาร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน และที่สำคัญมีที่จอดรถให้พร้อมด้วยนะจะบอกให้

ภายในตัวร้านตกแต่งได้แบบเกาหลีมากๆ เหมือนตามซีรี่ส์ที่เราชอบดูกัน นี่ถ้าได้มากินช่วงอากาศหนาวๆ หน่อยบอกเลยว่าโคตรฟิน แต่ก็นะบ้านเราตอนนี้ก็ร้อนตับแตกเลย แอบมโนว่าอากาศดีไปพรางๆ ก่อนละกัน

หากใครจะสั่ง กิมจิชีแก หรือจะเรียกว่า ซุปกิมจิ มาเพิ่มก็ได้ ซึ่งมีรสชาติเข้มข้นสุด ถ้าสายเกาจะรู้ดีว่าเมนูนี้ปังอยู่ช่วงหนึ่ง ก็เพราะหลายคนได้ตามรอยซีรีย์ Itaewon Class นั่นเอง

สรุปคือเป็นร้านปิ้งย่างที่อร่อยเลยแหละ เหมาะแก่การมานั่งสังสรรค์กินเลี้ยงกับเพื่อนเป็นที่สุด พนักงานก็บริการดี ประทับใจมากๆ กับร้าน Drum BBQ แต่บางคนอาจจะคิดว่าก็แค่ร้านปิ้งย่างเกาหลีทั่วไป แต่รสชาตินี่ที่ก็ไม่แพ้ร้านปิ้งย่างอื่นๆ เหมือนกันเด้อ คิดว่าต้องกลับมากินอีกแน่นอน ถ้าใครสายปิ้งย่างเกาหลีต้องปักหมุดสักหน่อยแล้วว

4. Cheongdam Korean Restaurant

เดินทางมาถึงร้านสุดท้ายกันแล้ว เป็นร้านอาหารที่อยู่ในโคเรียทาวน์ Cheongdam Korean Restaurant พิกัดอยู่ชั้นหนึ่งด้านในสุด โดยการตกแต่งร้านจะเป็นแนวร้านอาหารเกาหลีจ๋าๆ เลย มีโปสเตอร์อาหารเกาหลีพรึ่บพรับเต็มร้านให้ฟีลความเกาหลีแท้ๆ ส่วนทีเด็ดของร้านนี้คือโปรโมชั่นเมนูของเค้านี่ล่ะ ถูกม๊ากกก หากเราสั่งเมนูที่เป็นเซตรวมอยู่ในโปรโมชั่น ราคาแค่  99 บาทเท่านั้นเองเด้อ คุ้มสุดๆ อย่ารอช้าไปกินกันเร็ว

ร้านนี้มีเมนูให้เลือกมากมายเลยแหละ มีทั้งแบบบุฟเฟต์ หรือเราจะสั่งมาทีละอย่างเป็นจานเดี่ยวก็ได้ และแบบเซตก็มีให้ได้เลือกหลากหลายราคาด้วยกัน แต่ก๊อตเลือกสั่งเป็นตัวเซตโปรโมชั่น 99 บาทมา 3 เซตด้วยกัน ซึ่งร้านเค้าก็มีให้เลือกถึง 6 เมนูเลยแหละ

มาต่อกันเซตที่สามกันเลย นั่นคือ ข้าวผัดกิมจิไข่ดาว แถมซุปกิมจิ (99 บาท) สิ่งแรกที่เห็นคือไข่ดาวเด้งมากก อยากขอทริคไปทำเองที่บ้านกิน 5555 หน้าตาเมนูจัดว่าดีแหละ ส่วนรสชาติก๊อตก็ยังคิดว่าเฉยๆ อีกเช่นกัน แต่กิมจิของเค้าอร่อยนะ ไม่เปรี้ยวมากเท่าไหร่ กินได้สบายๆ

คราวนี้ถึงตาเมนูที่นอกเหนือจากเซตโปรโมชั่นกันบ้าง ก๊อตสั่งเป็น ไก่ผัดซอสเกาหลี (280 บาท)  ตัวซอสโคชูจังเข้าเนื้อไก่สุดๆ เข้มข้นจริงยอมรับเลยเมนูนี้ และเนื้อไก่มีความนุ่มอยู่ในตัว บอกก่อนว่ารสชาติจะติดเค็มไปหน่อย แนะนำให้กินกับข้าวร้อนๆ รสชาติถึงจะลงตัวได้พอดี รวมไปถึง เครื่องเคียงที่มาพร้อมเมนูนี้ จัดเต็มมาก กินได้ไม่ครบเลยเถอะ เอาเป็นว่าเมนูนี้ดีย์ มาสั่งกันกินได้เลย

นอกจากนี้บรรยากาศภาพรวมในร้านตอนกลางวันคนค่อนข้างเยอะ ถ้าใครจะมากินก็ต้องเผื่อเวลาด้วยกันนะ ในส่วนของโปรโมชั่นเซต 6 เมนูสั่งได้แค่ช่วงเวลา 11.00 – 17.00 นะทุกคนเช็คกันดีๆ ด้วยล่ะ ร้านนี้แม้จะมีหลายจานที่เฉยๆ แต่ก็ชอบไก่ผัดซอสเค้านะ มันอร่อยจริง กลับมากินอีกได้แหละ หากใครอยากลองเมนูที่หลากหลายก็ต้องลองมากินร้านนี้นาจา

ทั้งหมดนี้ก๊อตรวบรวมร้านอาหารสไตล์เกาหลีมาให้แล้ว ซึ่งเราไม่ต้องไปกินไกลถึงเกาหลี ก็ทำให้เราได้สัมผัสกับรสชาติ และบรรยากาศของเกาหลีกันได้ฟินๆ ใครชอบร้านไหนก็ลิสต์เอาไว้ แล้วตามไปกินกันได้โลด

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่เที่ยว

https://www.facebook.com/metourmice

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์ Hashcorner